เมืองโบราณฮอยอัน (Hoi An Ancient Town) ในสมัยของอาณาจักรจามปา บริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำทูโบน
ซึ่งมีชื่อว่า ไฮโฟ โดยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17
มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น
ดัตช์ และอินเดีย
เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง
มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง
ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทุกวันนี้ ฮอยอันยังคงเป็นเมืองขนาดเล็กเช่นเดิม
แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเป็นจำนวนมาก
ผู้มาเยือนมักมาเยี่ยมชมร้านค้าขายผลงานทางศิลปะและหัตถกรรม
ที่ตั้ง
เป็นเมืองขนาดเล็กตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทูโบน
บริเวณริมทะเลจีนใต้ทางตอนกลางของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในเขตจังหวัดกว่างนาม
ห่างจากเมืองดานังมาทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร
ฮอยอัน เป็นเมืองที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองคั่นกลาง
มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลองจากชุมชนจีน
สะพานดังกล่าวสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยมีหลังคาเหนือสะพาน นอกจากนี้ ยังมีวัดญี่ปุ่นตั้งอยู่ด้านขวามือของตัวสะพาน
ให้สะพานดังกล่าว
มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่าสะพานวัด หรือ Pagoda Bridge
ในปี พ.ศ. 2542 ฮอยอัน ได้ถูกขึ้นทะเบียนจากองค์กรด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์
และวัฒนธรรมของสหประชาชาติ (หรือองค์กรยูเนสโก) ให้เป็นเมืองมรดกโลก
เนื่องจากเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในอนุภูมิภาคที่มีการผสมผสานศิลปะ
และสถาปัตยกรรมของชาติตะวันตกกับท้องถิ่นเวียดนามได้อย่างมีเอกลักษณ์ อาคารต่าง ๆ
ภายในเมืองได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าจะผ่านอุทกภัยและสงครามต่าง ๆ ในช่วงกว่า 400 ปีที่ผ่านมา
บรรยากาศส่วนใหญ่ภายในเมืองฮอยอัน
มีลักษณะสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างจีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ถนนแคบ
มีบ้านไม้ทรงเตี้ยเรียงเป็นแถวสองฝั่งทาง
ด้านในบ้านมักประดับคำสั่งสอนและบทกลอนจีน ทั้งนี้เนื่องจากสมัยก่อน
มีพ่อค้าชาวจีนจากมณฑลกวางตุ้งและฟู๋เจี้ยนอพยพมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
เมืองฮอยอันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในชื่อ
เมืองโบราณฮอยอัน (Hoi An Ancient
Town) ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 23 เมื่อปี พ.ศ. 2542 ที่เมืองมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโก โดยมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณามรดกโลด้านวัฒนธรรมจำนวน
2 ข้อ คือ
(1) เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง
ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน
ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง
หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
(2) เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวัฒนธรรมมนุษย์
ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์
ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตามกาลเวลา
ที่มา:http://aseannotes.blogspot.com/2014/07/2.html